จีน..พระเอกแห่งวงการเทคโนโลยี กับปรากฏการณ์ที่โลกต้องจับตา
โพสต์เมื่อ 4 ธันวาคม 2563 | บทความโดย : บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้
“จีนกลายเป็น หนึ่งในพระเอกแห่งวงการเทคโนโลยีโลกแล้ว!!” นี่ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงเลย … แต่เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ เราจะเล่าให้ฟังว่า ปรากฏการณ์ใดบ้าง ที่ทำให้จีนมีคุณสมบัติโดดเด่น น่าจับตาได้???
โดดเด่นจน Facebook ยังต้องไล่ตาม
ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีของจีนได้พัฒนาตัวเอง จนกลายเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และกระแสความฮอตที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ถึงขั้นทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ในโซนยุโรปถึงกับต้องหันมามอง และปรับรูปแบบธุรกิจไล่ตามกันเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น
TikTok ต้นแบบคลิปความบันเทิงระดับโลก : หลังจาก ByteDance บริษัทเทคโนโลยีของจีน ได้เปิดตัวและพัฒนาแอปพลิเคชันTikTok ต่อเนื่อง ก็ทำให้ผู้คนทั่วโลกที่ชื่นชอบการสื่อสารผ่านวีดีโอคลิปสั้นๆ เข้ามากระหน่ำดาวน์โหลดแอปฯนี้ จนทำให้เจ้าของแพลตฟอร์มยักษ์รายอื่น ต้องหันมาทำตาม
ทั้ง Snapchat ที่เปิดตัว “Lens Challenges” หรือแม้กระทั่ง Facebook ที่เปิดตัว “Lasso” ออกมา ซึ่งล้วนแล้วแต่มีกลิ่นอายคล้าย TikTok ทั้งสิ้น …แต่ก็ใช่ว่าจะเอาชนะ TikTok ได้ง่ายๆ เพราะ TikTok มีไม้ตายสำคัญก็คือ deep learning ที่สุดชาญฉลาด ช่วยจับพฤติกรรมผู้ใช้ จนทำให้สามารถพยากรณ์ได้ว่า คลิปวีดีโอประเภทใดที่ผู้ใช้น่าจะสนใจรับชมเป็นคลิปถัดไป เพื่อดึงให้เกิดความต้องการอยู่ในแพลตฟอร์มของ TikTok นานขึ้น
จีนขึ้นแท่นหนึ่งในผู้นำ ด้านความพร้อมเทคโนโลยี 5G
รู้หรือไม่ว่า …จีนได้เป็นหนึ่งในผู้นำของประเทศที่มี “ความพร้อมด้านเทคโนโลยี 5G” แล้ว? ซึ่งถือว่าเทียบเท่าประเทศมหาอำนาจทางเทคโนโลยีอย่าง สหรัฐฯ แถมยังเหนือกว่า เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอังกฤษอีกด้วย
โดยความพร้อมของเทคโนโลยี 5G นี้ ประเมินจากหลายปัจจัย เช่น จัดสรรคลื่นความถี่ฯ การสนับสนุนจากรัฐบาล และนโยบายรัฐ เป็นต้น …
และนั่นยังหมายความว่า ประชากรในประเทศจีน ซึ่งมีจำนวนมากเป็นอันดับต้นๆของโลก จะสามารถเข้าถึงบริการด้านต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วขึ้น เช่น ด้านการแพทย์ แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อการอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน รถยนต์ไร้คนขับ ฯลฯ
แนวโน้มหุ้นเทคโนโลยีจีนโตต่อเนื่อง
ในด้านอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทเทคโนโลยีจีน ก็อยู่ในระดับที่น่าสนใจอย่างมาก โดยข้อมูลจาก Bloomberg คาดว่าในปี 2563 บริษัทที่อยู่ในดัชนี MSCI China Information Technology Index ซึ่งเป็นดัชนีที่รวบรวมหุ้นเทคโนโลยีในประเทศจีนจะมีอัตรากำไรต่อหุ้น (EPS) เติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน และในปี 2564 จะมีอัตรากำไรต่อหุ้นเติบโต 17% เมื่อเทียบกับปี 2563 เพราะผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น และบริษัทเทคโนโลยีจีนก็เร่งขยายและพัฒนาธุรกิจให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า เทคโนโลยี เพื่อการเลี้ยงชีพ ...โอกาสสร้างผลตอบแทนจนถึงวัยเกษียณ
เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนให้กับลูกค้า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า เทคโนโลยี เพื่อการเลี้ยงชีพ (TCHTECHRMF) ความเสี่ยงระดับ 7 (ความเสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ผ่านกองทุนอีทีเอฟ Invesco China Technology (กองทุนหลัก) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 8-21 ธันวาคม 2563 โดยกองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุนเช่น บริษัท Meituan Dianping ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันด้านไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร และเป็นผู้นำธุรกิจ Food Delivery ในประเทศจีน โดยข้อมูลจาก Bloomberg คาดว่า ในปี 2563 บริษัท Meituan Dianping จะมีอัตราการเติบโตของ EPS อยู่ที่ 269% เมื่อเทียบกับปีก่อน และในปี 2564 จะเติบโตอีก 215% เมื่อเทียบกับปี 2563
บริษัท Tencent Holdings ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันต่างๆ โดยมีแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง Wechat นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจ Fintech และเกมออนไลน์อีกด้วย โดยข้อมูลจาก Bloomberg คาดว่า ในปี 2563 กำไรต่อหุ้นของ Tencent จะเติบโต 43% เมื่อเทียบกับปีก่อน และปี 2564 จะเติบโต 24% เมื่อเทียบกับปี 2563
และบริษัท Baidu ผู้นำ Search Engine อันดับ 1 ของจีน และมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ขึ้น เช่น Online Video Platform, Cloud, ธุรกิจ AI เช่น รถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งข้อมูลจาก Bloomberg คาดว่า ในปี 2563 กำไรต่อหุ้นของ Baidu จะเติบโต 36% เมื่อเทียบกับปีก่อน และปี 2564 จะเติบโต 21% เมื่อเทียบกับปี 2563
ทั้งนี้ กองทุนเปิด TCHTECHRMF-A อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของ RMF และควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4 และ 0 2080 6000 กด 4