1. Taiwan Semiconductor Manufacturing บริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลก เพราะสามารถผลิตชิปขนาดเล็ก 3nm ที่มีคุณภาพสูงเป็นที่ต้องการของธุรกิจผลิตภัณฑ์มือถือและ Data Center โดยนักวิเคราะห์คาดว่ารายได้ของชิปขนาด 3 ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นกว่า 25% ของรายได้ทั้งหมดใน 5 ปีข้างหน้า และคาดว่ารายได้จากธุรกิจ Data Center AI จะแตะระดับ 23% ในปี 2571
2. Samsung Electronics ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าจากเกาหลี ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าในอนาคตรายได้ส่วนชิปหน่วยความจำต่างๆ ที่บริษัทผลิตจะได้รับความนิยมมากขึ้นจากการเข้ามาของ AI
3. SK hynix Inc. บริษัทผลิตชิปหน่วยความจำ (Memory Chip) ของเกาหลีใต้ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รายได้หลักของบริษัทมาจากการขายชิป Memory 2 ชนิด ได้แก่ NAND (ชิปหน่วยความจำ) และ DRAM (ชิปประมวลผล) ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทคือ Apple และ Nvidia เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทถือครองส่วนแบ่งตลาด Memory ทั้ง 2 ชนิดเป็นอันดับ 2 ทั้งคู่เป็นรองเพียง Samsung และ
4. HDFC Bank ธนาคารเอกชนใหญ่ที่สุดในอินเดีย ที่มีสินเชื่อและเงินฝากของอินเดียกว่า 60% อยู่ในธนาคาร ผลประกอบการโตแข็งแกร่งตามสัดส่วนเงินฝากที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของกลุ่มมนุษย์เงินเดือนในประเทศ
กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4