TH EN

ทำไมธีมตลาดเอเชีย-พลังงานหมุนเวียน เป็นเมกะเทรนด์...ที่น่าลงทุนตอนนี้ ?

                            

โพสต์เมื่อ 9 สิงหาคม 2565 | บทความโดย : นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนและสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)

ธีมตลาดเอเชีย และธีมธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ไม่ใช่กระแสที่น่าสนใจในระยะสั้นเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นเมกะเทรนด์ ที่สามารถเติบโตได้ในระยะยาว จนไม่ต้องมานั่งกังวลปรับพอร์ตการลงทุนแบบรายวัน รายเดือน ตามภาวะตลาด...ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ???

            ในช่วงที่ผ่านมา กองทุนธีมตลาดเอเชียได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะมีปัจจัยบวก ทั้งในแง่ของราคาหุ้น รวมถึงในแง่มุมทางเศรษฐกิจ และจำนวนประชากรวัยแรงงานที่ขยายตัวอย่างโดดเด่น ขณะที่ธีมธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ก็เป็นที่สนใจของนักลงทุนไทยเช่นกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ถึงกับมีเสน่ห์มากนัก เมื่อเทียบกระแสความนิยมต่างประเทศ

            อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของธนาคารทิสโก้ ประเมินว่า ทั้งสองธีมนี้จะมีความสำคัญ และน่าสนใจมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเมกะเทรนด์ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพสร้างผลตอบแทนสูงในระยะยาวให้กับพอร์ตได้ด้วย

            ...นับเป็นหนึ่งในธีม Megatrends Investment ที่ไม่ต้องปรับพอร์ตใหม่บ่อย ๆ สามารถลงทุนในระยะยาวมากกว่า 10 ปี หรือยาวไปได้จนถึงวัยเกษียณ เพราะมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

 

อินโดนีเซีย - เวียดนาม - จีน : เศรษฐกิจเติบโตสูง - กำไรบริษัทโตเด่น

 

            ในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารทิสโก้ แนะนำให้นักลงทุนหันมาโฟกัสการลงทุนในตลาดเอเชีย เช่น ประเทศจีนมากขึ้น เพราะตลาดในฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ มีความน่ากังวลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) และไม่เพียงแค่นี้ ตลาดเอเชียหลายแห่งยังมีความโดดเด่นในเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโตสูง อัตราการเติบโตของกำไร (EPS Growth) ที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ประกอบกับมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง โดยในเดือนกันยายนนี้ ธนาคารทิสโก้เห็นว่ามี 2 ประเทศในเอเชียที่โดดเด่น เป็นเมกะเทรนด์ที่น่าลงทุน ได้แก่

        1.ประเทศอินโดนีเซีย : นอกจากจะมีวัยแรงงาน รวมถึงเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต ช่วยสนับสนุนการบริโภคอย่างโดดเด่นแล้ว ยังเป็นประเทศที่มีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาประเทศ และเปลี่ยนกฏหมายเพื่อดึงดูดต่างชาติจนทำให้กลายเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ อีกทั้งค่าเงินมีเสถียรภาพมากกว่าประเทศตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) อื่น ๆ และด้วยความพร้อมของประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และประชากร จึงทำให้มีธุรกิจ Start up ระดับโลกเกิดขึ้นในประเทศจำนวนมากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งตอกย้ำถึงความเป็นประเทศที่เปิดกว้างด้านกฎเกณฑ์การทำธุรกิจ และกำลังการบริโภคที่มากพอ ในการสนับสนุนธุรกิจด้วย  

            2.เวียดนาม : ข้อมูลจาก Bloomberg คาดว่า ในปี 2022 – 2023 อัตราการเติบโตกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ของตลาดหุ้นเวียดนามจะอยู่ที่ระดับสูงถึง 24.6% ขณะที่ในระยะกลางก็มีปัจจัยบวก ซึ่งส่งผลให้ตลาดมีความน่าสนใจ เช่น สภาพคล่องในตลาดหุ้นเริ่มสูงขึ้น ข่าวดีเรื่องการนำดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามร่วมคำนวณในดัชนี MSCI EM ในปี 2025 ที่ทำให้หุ้นขนาดใหญ่ได้ประโยชน์ เป็นต้น1

            ส่วนประเทศจีนที่ธนาคารทิสโก้  ได้เคยแนะนำไปก่อนหน้านี้ ยังคงเหมาะกับการลงทุนในระยะยาว ขณะที่ในระยะสั้นก็มีปัจจัยบวกที่รออยู่ จากประเด็นที่จีนได้ประกาศเตรียมจัดตั้งการประชุมใหญ่ เพื่อเลือกผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 20 ในวันที่ 16 ต.ค. นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สาม ซึ่งจะทำให้สถานะของประธานาธิบดีสีกลายเป็นผู้นำที่ทรงอำนาจมากที่สุดของจีนนับตั้งแต่ เหมา เจ๋อตุง และจากสถิติในอดีตย้อนหลังนับตั้งแต่ช่วงปี 1997 ตลาดหุ้นจีนมักจะสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 20% ในช่วงก่อนที่จะถึงการประชุม National Congress2

 

พลังงานหมุนเวียน … โดดเด่นท่ามกลางปัญหาราคาพลังงานพุ่ง

 

            จากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนจนกลายเป็นสงครามที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ราคาก๊าซและถ่านหิน ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ … ด้วยความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนี้เอง ได้ทำให้ “พลังงานหมุนเวียน” กลายเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่สำคัญมากขึ้น  ในระยะยาว จนเป็นเมกะเทรนด์ที่น่าลงทุน ด้วย 3 เหตุผล ดังนี้

            1.เป็นพลังงานที่ใช้ได้ยาวนาน : พลังงานหมุนเวียน เป็นพลังงานชนิดที่สามารถสร้างขึ้นได้ซ้ำ ๆ โดยมากมักมีแหล่งกำเนิดมาจากธรรมชาติ อาทิ แสงอาทิตย์ ลม น้ำ ความร้อนใต้พิภพ และชีวมวลหรือผลผลิตและวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ยาวนานกว่า พลังงานที่ใช้แล้วหมดไป เช่น ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ฯลฯ จึงเป็นแหล่งพลังงานที่มั่นคงสำหรับมนุษย์

            2.ประเทศมหาอำนาจสนับสนุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน : ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 จีนลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 41,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์ให้ได้ 1,200 กิกะวัตต์ ภายในปี 2573 และในช่วงเวลาเดียว สหรัฐฯ ก็ได้ลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกันนี้ทั้งสองประเทศ ยังมีนโยบายสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ ด้วย จึงทำให้ธุรกิจในกลุ่มนี้ มีแนวโน้มที่จะเติบโตในระยะยาว3

            3.ค่าใช้จ่ายการผลิตพลังงานหมุนเวียนต่ำลง : เมื่อเทคโนโลยีและการแข่งขันในตลาดสูงขึ้นจากการแข่งขันของประเทศมหาอำนาจ ก็ยิ่งทำให้ต้นทุนการผลิตพลังงานหมุนเวียนถูกพัฒนาให้ลดลง นอกจากราคาในการผลิตแล้ว เทคโนโลยีในการกักเก็บพลังงานรูปแบบต่าง ๆ เช่น เซลล์เก็บกักพลังงานไฟฟ้า ก็ถูกพัฒนาการเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้อนาคตด้านการใช้พลังงานหมุนเวียนทั่วทั้งโลกชัดเจนยิ่งขึ้น4

 

ธุรกิจเทคโนโลยีแห่งอนาคต-นวัตกรรมการแพทย์-ธุรกิจเติบโตเด่นจากการเป็นผู้ปฏิวัติวงการ

 

            นอกจากสองธีมที่ได้แนะนำข้างต้นแล้ว ในส่วนของธีมการลงทุนเดิมที่ธนาคารทิสโก้เคยแนะนำไปในช่วงก่อนหน้านี้ ได้แก่ ธีมธุรกิจที่เทคโนโลยีแห่งอนาคต อย่างกองทุนที่เน้นลงทุนในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ธุรกิจความปลอดภัยด้านไซเบอร์ (Cyber Security) กองทุนที่เน้นลงทุนในธุรกิจ Cloud Computing ซึ่งเป็นธุรกิจเบื้องหลังความสำเร็จของ Metaverse ประกอบด้วย Software as a Service, Platform as a Service, Infrastructure as a Service

            รวมถึง ธีมธุรกิจนวัตกรรมทางการแพทย์ ได้แก่ 1.กองทุนที่เน้นลงทุนธุรกิจไบโอเทคโนโลยี (Biotechnology) ซึ่งเป็นธุรกิจวิจัยและพัฒนายา-วัคซีนรักษารวมถึงป้องกันโรค 2. กองทุนที่เน้นลงทุนในธุรกิจ Digital Health ที่เกี่ยวข้องกับบริการ Telehealth การใช้ระบบ Cloud ในการจัดเก็บข้อมูลผู้ป่วย รวมถึงบริษัทที่ผลิตเครื่องมือการตรวจโรค หุ่นยนต์ผ่าตัดและอุปกรณ์ทางการแพทย์สมัยใหม่ประเภทต่าง ๆ 3.กองทุนที่กระจายการลงทุนในหลากหลายธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์

            และธีมธุรกิจที่เติบโตโดดเด่นจากการเป็นผู้ปฏิวัติวงการ มีความสามารถในการแข่งขันสูง สร้างธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ หรือการบริการ ที่ช่วยให้โลกของเราดีขึ้น เช่น Tesla Inc. ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง, Moderna Inc. บริษัทผู้ผลิตวัคซีน ฯลฯ ยังคงเป็นธุรกิจที่แนะนำว่ายังสามารถถือเพื่อลงทุนระยะยาวได้

            หากคุณสนใจกองทุนรวม ที่มีนโยบายการลงทุนในแบบที่เราแนะนำ สามารถคลิกลิงก์ด้านล่าง เพื่อติดตามรายละเอียดกองทุนรวมที่เราคัดสรร หรือสามารถกรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

 

ที่มา

1. บลจ.ทิสโก้เปิดกอง “ทิสโก้ เวียดนาม อิควิตี้”ชี้ราคาหุ้นเทรดต่ำสุดในรอบ 7 ปี จังหวะเหมาะลงทุนรับปัจจัยบวกเพียบ (Press release, 17 พ.ค. 2565)

2. “ผลตอบแทนตลาดหุ้นจีน” Bloomberg, TISCOESU, Goldman Sachs

3. “จีนรุดหน้าผลิตพลังงานหมุนเวียน ครองสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งในโลก” (ผู้จัดการออนไลน์, 23 ส.ค. 2565)

4. “Economy of scale is at play” (Ourworldindata, ส.ค.2565)

© สงวนลิขสิทธิ์ 2561 ธนาคารทิสโก้ จำกัด มหาชน